ทำไม In-Process Probing จึงสำคัญ
- NEWS AND EVENTS
- 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที

สิ่งที่กังวลที่สุดจากโปรแกรม CAM คือการที่โค้ดที่เราเขียนจะทำงานได้ไม่ตรงตามที่คาดหวัง ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาดจากการตั้งค่าจุดศูนย์ (Work Coordinate System - WCS) หรือความคลาดเคลื่อนที่สะสมจากการสึกหรอของเครื่องมือกัด (Tool Wear) หากไม่มี In-Process Probing ปัญหาเหล่านี้จะถูกค้นพบก็ต่อเมื่อชิ้นงานถูกกัดเสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็สายเกินแก้
การใช้ In-Process Probing เข้ามาช่วยในโปรแกรม CAM ทำให้เราสามารถ:
ยืนยันตำแหน่งชิ้นงานแบบอัตโนมัติ: ก่อนที่จะเริ่มกัดชิ้นงานจริง เราสามารถเขียนโค้ดให้โพรบวัดตำแหน่งของชิ้นงาน เพื่อยืนยันว่าการตั้งค่า WCS ถูกต้อง 100% ถ้าตำแหน่งผิดพลาด ระบบจะแจ้งเตือนทันที นี่ช่วยป้องกันความผิดพลาดที่เกิดจากขั้นตอนการเซ็ตอัพซึ่งเป็นสาเหตุหลักของงานเสีย
ปรับแก้แบบ Real-Time: หากโพรบวัดชิ้นงานระหว่างทางและพบว่าขนาดเริ่มคลาดเคลื่อน (เช่น รูมีขนาดเล็กกว่าที่กำหนด) โปรแกรมสามารถสั่งให้เครื่องจักรปรับค่าชดเชยความสึกหรอของเครื่องมือ (Cutter Compensation) ได้โดยอัตโนมัติ ทำให้เครื่องมือสามารถกัดชิ้นงานต่อไปได้ในขนาดที่ถูกต้อง โดยที่นักเขียนโปรแกรมไม่ต้องเข้าไปแก้ไขโค้ดใหม่ทั้งหมด
ลดการทำงานซ้ำซ้อน: จากประสบการณ์ การแก้ไขงานที่ผิดพลาดต้องใช้เวลามาก ทั้งการหยุดเครื่อง การถอดชิ้นงาน การวัดซ้ำ การคำนวณใหม่ และการเซ็ตอัพเครื่องจักรอีกครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลานานและทำให้ต้นทุนสูงขึ้นอย่างมาก แต่ In-Process Probing จะช่วยตัดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นเหล่านี้ออกไป

การเปรียบเทียบในมุมมองเชิงปฏิบัติ: "กัดแล้วลุ้น" vs. "กัดอย่างมั่นใจ"
แบบเดิม: "กัดแล้วลุ้น"
ในอดีต คุณต้องเขียนโปรแกรมให้เผื่อระยะไว้เล็กน้อยสำหรับงานละเอียด เมื่อกัดเสร็จแล้ว ช่างต้องถอดชิ้นงานออกมาวัดด้วยมือ หากไม่ตรงตามสเปค ต้องนำกลับไปตั้งใหม่และรันโปรแกรมเก็บผิวอีกครั้ง หรืออาจจะต้องใช้เครื่องมืออื่นมาเก็บงานทีละเล็กละน้อย กระบวนการนี้กินเวลามาก และต้องอาศัยประสบการณ์ของช่างอย่างสูงเพื่อไม่ให้งานเสีย
แบบใหม่: "กัดอย่างมั่นใจ"
ด้วย In-Process Probing ผมสามารถเขียนโปรแกรมให้กัดงานได้ใกล้เคียงขนาดจริงมากขึ้น และใส่คำสั่งให้โพรบทำการวัดขนาดขั้นสุดท้าย ถ้าขนาดไม่ตรงตามที่ต้องการ ระบบจะทำการเก็บผิวอีกครั้งโดยอัตโนมัติด้วยค่าชดเชยที่ถูกต้อง นี่คือการทำงานแบบ Closed-Loop Feedback ที่แท้จริง ทำให้เราได้ชิ้นงานที่สมบูรณ์แบบตั้งแต่ครั้งแรกที่รันโปรแกรม